หญิงออน แจงชัด ๆ 4 ข้อ ปมเดือด เผยเหตุตะโกน รู้มั้ยกูเป็นใคร

หลังเป็นดราม่าเดือดในโลกออนไลน์ เมื่อมีผู้โพสต์คลิป หญิงออน ดวงพร ไชยารุ่งยศ ภรรยา ตั้ม วิชญะ จารุจินดา ลูกชายของนักแสดงรุ่นใหญ่ ดวงดาว จารุจินดา ปะทะเดือดกับสาวสอง เดือดถึงขั้นมีการปารองเท้าใส่กัน โดย หญิงออน ตะโกนสวนกลับไปว่า “มึงรู้ไหมกูเป็นใคร”

ทำให้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยเรื่องนี้นั้น หญิงออน เข้าแจ้งความแล้ว ในข้อหาทำร้ายร่างกายและหมิ่นประมาท พร้อมโพสต์ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ยืนยัน ตนกับเพื่อนไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน และไม่เคยรู้จักกัน ล่าสุด หญิงออน โพสต์ข้อความชี้แจงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

ออน ขอเล่าอันดับเหตุการณ์ ข้อเท็จจริงทั้งหมด ให้ทุกคนทราบ ตามนี้ค่ะ

1.เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ออน กับเพื่อนที่อบรมคอร์สเกี่ยวกับธุรกิจ ได้ไปสังสรรค์ที่ร้าน ออน กับเพื่อน ๆ ก็สังสรรค์กันตามปกติ แต่อยู่ ๆ ก็มีคนสาดป๊อปคอร์นมาใส่ โดน ออน จัง ๆ จากกลุ่มคู่กรณี โดยไม่ทราบสาเหตุ ออน จึงแจ้งให้พนักงานของทางร้านทราบ และต่อมา

ทางการ์ดของร้านได้เชิญกลุ่มคู่กรณีออกจากร้าน หลังจากนั้นตอนร้านใกล้ปิด ออน และเพื่อนกำลังจะกลับบ้าน พอออกจากร้านก็พบกลุ่มคู่กรณีประมาณ 2-3 คน ส่วนที่เหลือกลุ่มใหญ่คาดว่าน่าจะแยกย้ายกันไปหมดเเล้ว กลุ่มคู่กรณีที่ยังไม่กลับ พวกเขาได้มาสอบถามเหตุการณ์กับ ออน ว่าเกิดอะไรขึ้น

ออน ก็ตอบพวกเขาว่า มีคนในกลุ่มพวกเค้าสาดป๊อปคอร์นมาใส่ ออน ปรากฏว่าในกลุ่มคู่กรณีก็ได้พูดขึ้นว่า “แบบนี้แหละคะ เพื่อนฉันขี้หึง ขนาดเพื่อนด้วยกันเอง เขายังหึงหวงเลย” ซึ่ง ออน งงมากว่าหึงอะไร หึงใคร (ซึ่ง ออน ได้มารู้ทีหลังว่า มีการอ้างถึงในโพสต์ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นโฮสและเป็นแฟนเก่าของเพื่อนเขา

ซึ่งผู้ชายคนนั้น เป็นผู้ชายที่เคยคุย ๆ กับเพื่อนของ ออน ซึ่ง ออน ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับผู้ชายคนนั้นเลย เป็นแค่คนรู้จัก) เพราะวันนั้น ออน มาคนเดียว ส่วนเพื่อนที่อยู่โต๊ะเดียวกัน ก็จะมีเพื่อนของเพื่อนมาร่วมโต๊ะด้วย ซึ่ง ออน เองก็ไม่ได้รู้จักทั้งหมด บางคนก็เพิ่งรู้จักวันนั้น หลังจากเหตุการณ์วันนั้นก็ไม่เคยได้เจอกลุ่มคู่กรณีอีกเลย

2.เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ขณะออนอยู่ที่ร้าน บังเอิญเจอกับกลุ่มคู่กรณีกลุ่มใหญ่โดยความบังเอิญ กลุ่มคู่กรณีเริ่มมีการใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสมกับ ออน และเพื่อน เช่น “อีนี่มาอีกละ“ จนนำไปสู่เหตุการณ์โต้เถียงและปะทะกัน ซึ่งปรากฏในคลิปที่เผยแพร่ออกไป ช่วงที่กำลังมีปากเสียงกัน

ออน ก็ได้ถามกลุ่มคู่กรณี ถึงเหตุการณ์คราวก่อนว่าปาป๊อปคอร์นมาใส่ ออน ทำไม แต่ทางนั้นก็พยายามจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย แต่การ์ดของร้านได้เข้าห้ามไว้ทัน และทางร้านก็ได้เชิญให้พวกเขาออกไปจากร้าน ออน ก็คิดว่าคงไม่มีอะไรเเล้ว และอยู่สังสรรค์กับเพื่อนต่อจนร้านปิด

3.เมื่อ ออน และเพื่อนกำลังจะกลับบ้าน ซึ่งต้องลงมาที่ชั้น 1 เพื่อไปขึ้นรถ กลุ่มคู่กรณีมาดักรอและมีการปารองเท้า พร้อมทั้งตะโกนถึงเหตุการณ์ป๊อปคอร์นว่า กูเป็นคนปาป๊อปคอร์นเองแหละ มึงจะทำไม เลยมีการโต้เถียงกัน และคู่กรณีก็ถามมาซ้ำ ๆ ว่า “มึงรู้มั้ยกูลูกใคร

มึงรู้มั้ยกูเป็นใคร มามีเรื่องกะกู” ออน เลยสวนกลับไปว่า “มึงไม่รู้ว่ามึงเป็นใคร แล้วมึงรู้มั้ย กูเป็นใคร” และ ออน ก็ถามเขาไปว่า เราไม่รู้จักกัน แล้วมึงปาป๊อปคอร์นใส่กูทำไม ซึ่งทางฝั่งโน้นเขาถาม ออน มาก่อนว่า “รู้มั้ยว่ากูเป็นใคร” ในความหมายของ ออน หมายความว่า

ออน กับเขาไม่รู้จักเขากันเลย ทำไมต้องมีเรื่องกัน และช่วงชุลมุน ออน โดนของแข็งกระแทกที่ศีรษะ (ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นอะไร) หลังจากนั้นพวกเขาก็หนีกลับบ้านไป ซึ่ง ออน ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

4.การโพสต์ข่มขู่และหมิ่นประมาทผ่านโซเชียลมีเดีย หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดยุติลงในคืนนั้น ออน คิดว่าเรื่องคงจะจบเพียงเท่านั้น แต่ต่อมาปรากฏว่ามีบุคคลในกลุ่มคู่กรณี โพสต์ข้อความในเชิงยุยง ปลุกปั่น เยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม และข่มขู่คุกคาม ลงในโซเชียลมีเดีย

หลายช่องทาง ด้วยถ้อยคำรุนแรง ณ เวลานี้ ออน ได้รวบรวมหลักฐานแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง และข้อหาอื่น ๆ และหากพยานหลักฐานอื่นพบว่า มีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ออน ขอใช้สิทธิในการดำเนินคดีต่อไป ออน ขอยืนยันว่า จะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

เพื่อปกป้องสิทธิและชื่อเสียง และไม่สนับสนุนความรุนแรงหรือการใช้คำพูดเหยียดหรือดูหมิ่นรูปลักษณ์ของใครทั้งสิ้น สุดท้ายนี้ ออน ต้องขออภัยทุกท่านอีกครั้งและขอขอบคุณทุกกำลังใจจากคนที่เข้าใจสถานการณ์ค่ะ และคนที่ ออน อยากขอโทษมากที่สุด คือ คุณแม่ดวงดาว จารุจินดา และ พี่ตั้ม ที่ต้องถูกพาดพิงเกี่ยวกับเรื่องของ ออน ด้วยค่ะ