หมอพลอย ทายาท ดี้ ปัทมา

คิดถึงก็ได้แต่ส่งกำลังใจ-ส่งเสบียง และไม่ทำตัวเป็นภาระของหมอ ก่อนหน้านี้ ดี้ ปัทมา เผยความรู้สึกในวันบุตรสาว หมอพลอย ต้องต่อสู้ ไม่มีเวลากลับบ้าน

สุดปลาบปลื้มหลังคนชมบุตรสาวคือความภูมิใจ เรียกได้ว่านอกจากจะต้องเสียสละทุ่มแรงกาย แรงใจ เพื่อช่วยเหลือท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน ที่หนักในช่วงนี้แล้วนั้น

ก็ยังต้องเสียสละเวลาที่จะได้อยู่กับครอบครัวและคนรักเพื่อมาทำหน้าที่อีกด้วย เช่นกันเดียวกับคุณพ่อคุณแม่ของเหล่าทีมแพทย์-พยาบาล ก็ต้องเสียสละทนต่อความคิดถึง

และเป็นห่วงบุตรไม่น้อยเช่นเดียวกัน แม้ว่าหัวอกของคนเป็นแม่จะอดห่วงและอดคิดถึงไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมสละเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกัน เพื่อให้บุตรสาวได้ทำหน้าอย่างเต็มกำลัง

ส่วนตัว ดี้ ปัทมา ก็ทำได้เพียงแค่ส่งกำลังใจให้บุตรสาวแทน โดยงานนี้เจ้าตัวก็ได้เผยผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า ในวันที่เราต้องร่วมใจ คนเป็นแม่ก็ได้แต่ส่งเสบียง สวดมนต์

และเป็นกำลังใจที่สำคัญต้องทำตัวเองให้ดีไม่ไปเพ่นพ่านให้บุตรเป็นห่วงและเป็นภาระให้หมอค่ะ อย่างเช่นนักแสดงรุ่นใหญ่ ดี้ ปัทมา ปานทอง ที่บุตรสาว หมอพลอย

กำลังทำหน้าที่เป็นคุณหมออยู่แผนกอายุ รกรรม ในรพ.แห่งที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งขณะนี้บุตรสาวสุดที่รักของเจ้าตัวก็กำลังเป็นปราการด่านหน้าต่อสู้

เพื่อประชาชนอยู่ จึงไม่มีเวลาได้กลับบ้านมาหาครอบครัว แถมก่อนหน้านี้ เจ้าตัวก็ยังได้เผยโมเมนต์ความปลาบปลื้มในตัวบุตรสาวหลังจากที่ได้รับคำชมจากโซเชียลที่ว่า

ขอบคุณคุณแม่เช่นกันค่ะ ที่ให้บุตรสาวเรียนหมอ คุณหมอพลอยคือความภูมิใจของสระบุรี คือความหวังของชาวอายุรกรรม ซึ่งแน่นอนว่างานนี้ความปลาบปลื้มชื่นใจ

ก็ย่อมต้องเกิดกับคนเป็นแม่ไม่น้อยเลยทีเดียว เรียกได้ว่าแม้จะห่วงในฐานะคนเป็นแม่ แต่ก็ต้องยอมให้บุตรสาวได้ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่ น่าชื่นชมสุดๆ ซึ่งก่อนหน้านี้

หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตา น้องพลอย โสวิชญา ปานทอง บุตรสาวของนักแสดงรุ่นใหญ่ที่อยู่ในวงการบันเทิงมานานอย่างคุณ ดี้ ปัทมา ปานทอง กันมาบ้าง

ซึ่งตอนนี้น้องพลอยหรือคุณหมอพลอยก็ได้สำเร็จการศึกษาจาก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.78 และสามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 มาครอง

ได้เป็นผลสำเร็จ ทราบมาว่าทางครอบครัวอยากให้เรียนนิติศาสตร์ แต่ทำไมถึงเลือกเรียนหมอได้คะ คือช่วงประมาณ ม.5- ม.6 ดูหนังหลายเรื่องเลยค่ะ เลยรู้สึกว่าเป็นอาชีพที่ดี

น่าสนุก น่าจะได้ทำอะไรหลายอย่างค่ะ แล้วก็รู้สึกว่าต้องได้ทำอะไรที่ได้ช่วยเหลือคนอยู่ตลอดเลยค่ะ ส่วนทางคุณแม่ไม่ได้บังคับว่าให้เรียนอะไร พอบอกว่าอยากเรียนหมอ

คุณแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนมากที่บ้านจะให้โอกาสเราในการตัดสินใจค่ะ เรียนหนักไหมคะ แล้วแบ่งเวลาเรียนยังไง มีช่วงหนัก ช่วงเบา สลับกันไปค่ะ จริงๆหนูไม่ได้มีกิจกรรมอะไรมากมายนัก