อีกหนึ่งทีมเบื้องหลัง

นอกจากหมอ-พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์หรือหน่วยงานอื่นๆ จะทำงานหนักแล้ว ล่าสุดเฟซบุ๊กเพจ โรงพยาบาลนครพิงค์ ได้ออกมาโพสต์ถึงเบี้องหลังทีมดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ นั่นก็คือ ทีมซักฟอก ที่ต้องทำงานหนักไม่แพ้กัน

โดยระบุว่า “งานซักฟอก อีกหนึ่งทีมที่อยู่เบื้องหลังการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ การให้การดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในแต่ละวัน มีผ้าที่ปนเปื้อนเชื้อ หรือผ้าที่สัมผัสกับผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นชุดของผู้ป่วย ชุดของบุคลากรทางการแพทย์ ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว

หน่วยซักฟอกโรงพยาบาลนครพิงค์ รับหน้าที่ในการดูแลผ้าปนเปื้อนเชื้อของทั้งภายในโรงพยาบาลนครพิงค์เอง และ ผ้าบางส่วนจากโรงพยาบาลสนาม (ร่วมกับหน่วยซักฟอกของ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่) โดยแต่ละวันมีผ้าจากโรงพยาบาลสนาม ที่มาทำความสะอาดที่โรงพยาบาลนครพิงค์ประมาณ 250-350 กิโลกรัม กระบวนการขั้นตอนต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO)

ซึ่งการนำผ้าติดเชื้อเหล่านี้มาทำความสะอาดต้องมีขั้นตอนที่จำเพาะเจาะจงและระมัดระวังเป็นพิเศษ ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บผ้า ที่ผู้จัดเก็บต้องใส่ชุดป้องกันส่วนบุคคล (PPE) จัดเก็บลงในถุงใส่ผ้าที่ละลายน้ำได้ 3 ชั้น (เป็นถุงที่ออกแบบมาให้ละลายน้ำได้ ใช้ในกรณีการซักล้างผ้าที่ปนเปื้อนเชื้อหรือสารเคมี เพื่อให้ปลอดภัยแก่ผู้ทำงานโดยไม่มีผลกระทบต่อผ้าและสิ่งแวดล้อม) พ่นแอลกอฮอล์ ในทุกขั้นตอน ใส่ลงในถุงขยะสีแดง แล้วใส่ลงในถัง ปิดฝาถังด้วยตัวล็อค หรือ ซีลด้วยเทปกาว แล้วจึงนำส่งหน่วยซักฟอก

หน่วยซักฟอกจะนำผ้าในถุงละลายน้ำออกจากถุงขยะแดง แล้วนำลงเครื่องซักทั้งถุงโดยไม่เปิดถุง ซักด้วยน้ำร้อน 60-90 องศา (ถุงจะละลายในน้ำร้อน) แล้วจึงนำมาตากแดด และพับให้เรียบร้อยก่อนส่งผ้ากลับมาใช้ใหม่

การดูแลผู้ป่วยติดเชื้อนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือของทีมงานต่างๆ ทั้งนักรบแนวหน้าและทีมสนับสนุนแนวหลัง ที่ทุกฝ่ายล้วนเป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับภารกิจในครั้งนี้ทั้งสิ้น”