มะเร็งร้ายกำลังพรากแม่ หลือเวลาแค่ 6 เดือน ดับฝัน มีบ้าน-ได้อยู่พร้อมหน้า

วันที่ 2 พ.ย.64 มีชาวบ้านครอบครัวหนึ่งที่ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากกำลังเผชิญกับห้วงเวลาที่บีบหัวใจเมื่อมารดาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว อายุ 43 ปี และเป็นเสาหลักของครอบครัวเพียงคนเดียว ได้ป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกระยะสุดท้าย อาจอยู่ได้ไม่ถึงปี เงินที่เก็บมาทั้งชีวิตก็นำมารักษาตัวจนหมด ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากมีฐานะยากจน และไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว ปัจจุบันมีลูกสาวคนโต อายุ 19 ปี ที่ต้องลาออกจากงาน มาคอยดูแล ทั้งแม่ที่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และน้องที่ยังเป็นเด็กเล็กอีก 2 คน
ซึ่งทางผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 4 บ้านราหุล ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านไม้เล็กๆ ที่ทรุดโทรม ผุๆ พังๆ ลักษณะคล้ายกระท่อม และมีเครื่องสูบน้ำของญาติที่ติดตั้งไว้คอยสูบน้ำออกเวลาฝนตกแล้วน้ำจะท่วมบ้าน เนื่องจากสร้างอยู่ในที่ลุ่ม พบ น.ส.ปภาวรินท์ พุ่มศิริ อายุ 19 ปี กำลังดูแลผู้เป็นแม่คือ น.ส.ธันย์ชนก ธรรมสูณ อายุ 43 ปี ที่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถลุกนั่ง และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยมีน้องสาวอีก 2 คน คือ ด.ญ.ธนกานต์ พุ่มศิริ หรือน้องเอิร์น อายุ 10 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 4 และ ด.ญ.ธัชญาดา พุ่มศิริ หรือน้องเอย อายุ 7 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 1 กำลังช่วยกันบีบนวดให้กับผู้เป็นแม่
น.ส.ธันย์ชนก เล่าว่า รู้สึกเสียใจที่ตนไม่สามารถทำสิ่งที่ตั้งความหวังไว้ว่าจะสร้างบ้านใหม่ให้ลูกทั้ง 3 คนได้อยู่สบายกว่านี้ ตนพยายามทำงานเก็บเงินตั้งความหวังว่าสักวันจะมีเงินสร้างบ้านและได้อยู่กับลูกๆ พร้อมหน้าพร้อมตา เพราะที่ผ่านมาตนทำงานอยู่กับรถทัวร์ จึงไม่เคยมีเวลาอยู่กับลูก เงินที่พยายามเก็บสะสมไว้ก็มาใช้จ่ายหมด ในช่วงโรคโควิดระบาดเพราะตกงานไม่มีรายได้ก็รู้สึกทุกข์ใจมาก พอหมอบอกว่า ตนเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ความรู้สึกตอนนั้นคือ ความฝันที่ตั้งความหวังไว้พังหมด ไม่เหลืออะไรแล้วในชีวิต สิ่งที่เสียใจที่สุดในตอนนี้คือไม่สามารถทำในสิ่งที่ตนตั้งความหวังไว้กับลูกๆ ได้
ด้าน น.ส.ปภาวรินท์ เล่าว่า แม่เป็นเสาหลัก และทำงานหาเงินเพียงคนเดียว ไม่ค่อยมีเวลามาอยู่กับลูกๆ ที่บ้าน เนื่องจากทำงานบริการบนรถทัวร์ แต่แม่ไม่เคยลืมที่จะต้องมาแวะดูหาลูกที่บ้านและให้เงินไว้ใช้จ่าย ส่วนตนต้องดูแลบ้านและดูแลน้องสองคน ทุกครั้งที่แม่มาหาที่บ้านแม่จะร่าเริงแจ่มใส บอกลูกให้อดทนเพราะแม่กำลังพยายามเก็บเงิน เพื่อจะสร้างบ้านใหม่ให้ เพราะบ้านที่อาศัยอยู่ทุกวันนี้ทรุดโทรมมาก ลูกๆ จะได้ไม่ลำบากอย่างทุกวันนี้ ทุกวันนี้รู้สึกเครียดมากอาการแม่มีแต่ทรุด ตั้งแต่แม่รู้ตัวว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และจะมีชีวิตอยู่ได้แค่ 6 เดือน รู้สึกเสียใจเมื่อเห็นแม่เจ็บปวดทรมาน แต่ก็ช่วยอะไรแม่ไม่ได้ ตนกับน้องๆ ก็ทำได้เพียงช่วยกันบีบนวดให้แม่ หวังว่าจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้แม่ อยากให้ปาฏิหาริย์มีจริง ให้แม่หายป่วยกลับมานั่งได้เดินได้ อยากมีเงินสร้างบ้านหลังใหม่ให้แม่ได้อยู่ก่อนที่แม่จะจากไป และได้ทำตามความฝันของแม่ที่อยากสร้างบ้านหลังใหม่ให้ลูกๆ ได้อยู่สบายกว่านี้
สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือ สามารถติดต่อบริจาคได้ที่ น.ส.ปภาวรินท์ พุ่มศิริ โทรศัพท์ 092-857-5003 หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาบึงสามพัน บัญชีเลขที่ 451-0-76445-6 ชื่อบัญชี นางน้ำผึ้ง ศรีรอด และ น.ส.ปภาวรินท์ พุ่มศิริ และนางสาคร ธรรมสูณ