ร้านค้าโอด โดนเรียกเงิน โครงการรัฐ คืน

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2564 ทวิตเตอร์ได้เกิดเทรนด์ #เรียกเก็บเงินโครงการรัฐ อันเป็นการปรากฏเอกสารแจ้งเรียกเก็บเงินจากโครงการเยียว ย า ในช่วง CV-19
งานนี้เหล่าพ่อค้าแม่ค้าได้พากันโพสต์เอกสารเรียกเงินคืนในครั้งนี้กันมากมาย โดยเป็นเอกสารที่ทาง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ออก ส่งไปยังบรรดาร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ เช่น โครงการเราชนะ โครงการคนละครึ่ง
โดยเนื้อหาในเอกสารระบุว่า “เนื่องจากมีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายไม่ปฏิบัติตาม หรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการ และไม่ได้จัดส่งเอกสารชี้แจงโต้แย้งมาภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามความยินยอมที่ได้ให้ไว้ขณะเข้าร่วมโครงการฯ ให้คืนเงินภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือนี้ หากไม่เห็นด้วย สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 15 วัน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ลงวันที่ 14 กันยายน 2564”
ซึ่งแต่ละผู้ประกอบการที่ได้รับเอกสารฉบับนี้ ก็จะโดนเรียกเงินคืนที่แตกต่างกัน บางรายมีตั้งแต่โดนเรียกคืนหลักแสน ไปจนถึงมีผู้ที่โดนเรียกเงินคืนสูงสุด คือ 17 ล้านบาท จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก ทั้งนี้ ร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่โดนเรียกเงินคืนนั้น จากที่มีรายงานว่า ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าที่รับสแกนแล้วแลกเป็นเงินสด โดยหักค่าธรรมเนียม 10% และ กรณีร้านค้าออนไลน์ที่รับสแกนข้ามจังหวัด
ซึ่งรัฐบาลเห็นว่า เป็นการกระทำส่อแวว ทุ จ ริ ต เนื่องด้วยโครงการดังกล่าวไม่อนุญาตให้รับแลกออกมาเป็นเงินสด หากพบจะทำการริบเงินคืนทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะรายการที่ทำ ทุ จ ริ ต งานนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าบรรดาร้านค้าและผู้ประกอบการ จะปรับตัวกันอย่างไร แต่ตอนนี้ทุกคนคงจะผวากันไม่น้อยว่า จะได้รับเอกสารฉบับนี้ส่งมายังบ้านตนเองหรือไม่