หลังจากที่ทำให้แฟนช็อกกับการที่ พิกเล็ต ชาราฎา อิมราพร และวิคเตอร์ ชัชชวิศ เตชะรักษ์พงศ์ ออกมาประกาศเลิก ปิดฉาดรัก 10 กว่าปี ล่าสุด วิคเตอร์ ได้ออกมาเปิดใจบอกว่า “ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เพราะว่ามันเป็นสถานะที่เราไม่ได้ตั้งใจให้เป็น ไม่ได้รู้สึกโสดแบบนี้
มานานแล้วครับ ก็รู้สึกแปลกนิดหน่อย พยายามที่จะปรับตัวแต่ต้องใช้เวลาผมไม่ได้เก่งอะไร ในหลายเรื่องต้องใช้เวลาในการปรับตัวกันไป ก่อนที่จะลงประกาศในโซเชียลมีการคุยกันมาตั้งนานแล้วประมาณ 2 เดือน ตกลงกันก่อนหน้านั้นอยู่แล้วว่าเราจะอะไรยังไงกันดี ในจุดของแต่ละคู่
มันก็ไม่เหมือนกัน ของผมมันเป็นเรื่องของช่วงเวลาที่เราเติบโตขึ้น บวกกับหน้าที่การงานของเราในปัจจุบันที่ไปเกี่ยวโยงกับและสไตล์ความฝันการวางแผนชีวิต มันไม่ใช่สิ่งที่เราคิดวันนี้ตัดสินใจพรุ่งนี้ หรือว่าเพิ่งคิดเมื่อเช้าและตัดสินใจตอนเย็น เราสองคนใช้ระยะเวลาในการถามใจตัวเอง
มาค่อนข้างนานแล้วครับ เป็นปี เพราะว่าเราสร้างความสัมพันธ์กันมายาวนานขนาดนี้ ดังนั้นการตัดสินใจไม่ได้ใช้ระยะเวลาสั้นแน่นอน เราลองทำกันมาทุกทางแล้วครับ เรียกได้ว่ามันเป็นความสมัครใจทั้งสองฝ่ายมากกว่า จริง ๆ แล้วผมเป็นฝ่ายถามเค้าเองด้วยว่ามันเป็นอย่างนี้
เกิดเรื่องราวประมาณนี้ขึ้นแล้วเราจะยังไงกันต่อดี แต่ทุกอย่างมันต้องเดินต่อไป เรายังมีความทรงจำดี ๆ ที่เราทำร่วมกันมาเยอะมาก ในไอจีผมไม่ได้ลบโพสต์ รูปที่เราเคยทำด้วยกัน และคิดว่าไม่น่าจะลบด้วย ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นในชีวิตของเรา มันไม่ใช่เรื่องราวที่ไม่ดี
มันเป็นเรื่องราวที่ดีและเป็นประสบการณ์ที่ผมรู้สึกว่าอยากให้มันอยู่ในชีวิตของผม เลยไม่ได้เอาออกครับ ผมยืนยันเลยครับว่า ไม่มีมือที่สาม เพราะว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์การเติบโตขึ้นทั้งของผมและเขามากกว่า ผมเชื่อว่ามีหลายคู่ที่เค้าเข้าใจ
สถานการณ์แบบนี้ แต่มีพี่หลายคนที่เค้าไม่ได้เห็นภาพแบบที่ผมเจอ เค้าไม่เข้าใจ แต่ผมเข้าใจนะครับ อย่างที่บอกคนเรามีประสบการณ์และมุมมองความรักไม่เหมือนกัน แต่ละคนก็จะเจอเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไป ของผมก็จะเป็นเรื่องราวลักษณะของการเติบโตเรามีความฝันของเรา
เค้าก็มีความฝันของเขาต่างคนต่างมีสิ่งที่อยากจะทำทั้งคู่เลยไม่มีเรื่องราวของการมีมือที่สามในความสัมพันธ์ทั้งของผมและของเขาด้วย จริง ๆ ผมก็ยังสนุกนะ แม้กระทั่งวันสุดท้ายหรือทุก ๆ ครั้งที่เราคุยกัน หรือหลังจากที่เราจบสถานะกันไปแล้ว เราพูดคุยกันเรื่องงาน เรื่องครอบครัวของเขา
หรือว่างานค้างต่าง ๆ ที่เราเคยคุยกัน ผมรู้สึกว่าก็ยังสนุกนะ แต่ด้วยความที่ชีวิตต้องเดินต่ออ่ะครับก็ให้มันเป็นความทรงจำที่ดีไป ในอนาคตถ้าต้องเจอกันหรือร่วมงานกันก็ยังทำได้ปกติครับ เพราะการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจร่วมกัน จบกันด้วยดีครับ ความรู้สึกของผมตอนนี้มันก็เฮิร์ต
คบกันมาตั้ง 10 ปีเนอะ ถ้าบอกว่าผมไม่รู้สึกอะไรเลยมันก็น่าจะโกหก ยอมรับตรง ๆ ว่ามีจังหวะที่เราเป๋ ๆ ประมาณนึงเหมือนกัน ผมเชื่อว่าหลายคนดูออกว่าผมก็อยู่ดี ๆ มีช่วงไม่เล่นไอจี ไว้ผมยาวโผล่ไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัว แล้วก็พยายามหากิจกรรมทำไม่ให้ตัวเองอยู่บ้านว่าง ๆ
ถ้าเกิดไม่ทำงานผมก็จะไปออกกำลังกายกับเพื่อน ๆ ผมก็มีวิธีในการหาทางออกในเรื่องของความรู้สึกตรงนี้ รู้สึกว่าเราต้องพยายามอยู่กับตัวเองให้มากขึ้น ผมโชคดีและรู้สึกขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนมากที่ช่วยเหลือและเป็นห่วง รวมถึงครอบครัวของผมด้วยที่ไลน์มาถามว่า โอเคมั้ย
เรารู้สึกว่าชีวิตต้องไปต่อเนอะ เพราะเราก็มีคนรอบข้างที่เขาอยู่กับเรา”