จากกรณีที่ “หนุ่ม กรรชัย” กล่าวถึงประเด็นของดาราสาวท่านหนึ่งในรายการ “โหนกระแส” เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมจับมือ “กัน จอมพลัง” และระบุว่าเป็นเรื่องที่มีผลกระทบอย่างมาก จนหลายคนคาดเดาว่าอาจเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในแวดวงบันเทิง
ล่าสุด ในรายการ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” หนุ่ม กรรชัย ได้กล่าวถึงกรณีนี้อย่างชัดเจน โดยระบุว่าบุคคลที่พูดถึงคือ “คะน้า ริญญารัตน์” นักแสดงที่เคยมีผลงานกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 โดยเธอได้พบกับบุคคลหนึ่งผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งภายหลังพบว่าอีกฝ่ายให้ข้อมูล
ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง คะน้า เปิดใจว่า ตอนแรกเธอเชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่จริงใจและน่าเชื่อถือ โดยระบุว่ามีการพูดถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน รวมถึงการอ้างถึงบุคคลและหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจในเวลาต่อมา ในช่วงหนึ่ง เธอถูกขอความร่วมมือทางการเงิน
ในรูปแบบของ “ของขวัญ” เพื่อใช้ในโอกาสพิเศษ ซึ่งภายหลังตรวจสอบพบว่าไม่มีหลักฐานยืนยันตามที่กล่าวอ้าง เธอจึงตัดสินใจหยุดการติดต่อและขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ “ตอนแรกไม่อยากพูดอะไร เพราะไม่อยากให้เรื่องราวบานปลาย แต่เมื่อเห็นว่ามีหลายคนที่อาจเคย
เจอเหตุการณ์คล้ายกัน เลยอยากเล่าเพื่อเป็นประสบการณ์” เธอยังยืนยันว่า การตัดสินใจคบหากับใคร ไม่ได้พิจารณาจากฐานะหรือภาพลักษณ์ แต่ดูจากความตั้งใจและการปฏิบัติต่อกันมากกว่า พร้อมเผยว่าเธอเป็นฝ่ายช่วยเหลือในบางเรื่องโดยสมัครใจ และไม่ได้รับสิ่งตอบแทน
ตามที่บางคนเข้าใจ ทางด้าน หนุ่ม กรรชัย ยังฝากข้อความถึงสังคมออนไลน์ว่า ไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์หรือกล่าวโทษผู้ที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ในเชิงลบ เพราะไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าตนเองอาจเจอกับเรื่องแบบนั้นหรือไม่ “เราไม่รู้หรอกว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ใครก็มีโอกาสพลาดหรือเจอเรื่องไม่คาดฝัน อย่าตัดสินใครจากแค่สิ่งที่เห็นหรือได้ยิน เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใครก็ได้” ล่าสุด ในเทปที่สองของรายการ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีมาให้ความเห็นเกี่ยวกับทรัพย์สินมีค่าหลายรายการที่ได้รับ โดยมีการเปิดเผยผลการตรวจสอบที่น่าสนใจดังนี้
ช่างนะโม ผู้ประกอบการร้านทองในจังหวัดสระบุรี ได้ตรวจสอบทองคำและแหวนที่ คะน้า ได้รับ โดยระบุว่า ทองคำที่มีน้ำหนักประมาณ 50 บาทนั้น มีลักษณะของวัสดุที่ไม่ได้ผ่านมาตรฐานทองคำบริสุทธิ์ทั่วไป และมีองค์ประกอบของโลหะผสมในสัดส่วนสูง เพราะทองที่ต่ำกว่า 90 จะมีสีดำ
และทองที่ได้รับมีทองปนอยู่แค่ 2% เท่านั้น ขณะที่แหวนเพชรที่มีลักษณะคล้ายอัญมณีขนาดใหญ่ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่เพชรแท้ แต่เป็นวัสดุเลียนแบบที่พบได้ทั่วไปในท้องตลาด เพราะเมื่อขูดกับกระดาษทรายแล้วก็พบว่าเป็นของปลอมที่มีราคาถูกมาก โดยเม็ดเพชรแต่ละเม็ดมีราคา
ต่ำเพียง 300 บาทเท่านั้น จากการตรวจสอบ ค่าประเมินของสิ่งของเหล่านี้มีมูลค่าน้อยกว่าที่เข้าใจกันในตอนแรก ทำให้หลายคนในรายการต่างรู้สึกประหลาดใจ ก่อนหน้านี้ คะน้า ได้เล่าว่า เธอรู้จักกับบุคคลหนึ่งผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งมีบุคลิกสุภาพและน่าเชื่อถือ โดยมีการพูดถึง
ความเกี่ยวข้องกับบุคคลในแวดวงราชการ รวมถึงแสดงความตั้งใจในเรื่องความสัมพันธ์อย่างชัดเจน ผ่านการมอบของขวัญและเครื่องประดับต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อนำสิ่งของไปตรวจสอบแล้ว เธอเริ่มเกิดข้อสงสัย จึงตัดสินใจพูดถึงเรื่องนี้เพื่อ แบ่งปันประสบการณ์และเป็น
บทเรียนให้กับสังคม เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ การตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทรัพย์สินและข้อมูลของผู้คนรอบตัวเรา โดยเฉพาะในยุคที่การสื่อสารผ่านโลกออนไลน์เกิดขึ้นได้ง่าย การตัดสินใจต่าง ๆ ควรอยู่บนพื้นฐานของความรอบคอบและความเข้าใจที่ชัดเจน