แอฟ ย้อนเล่า ช่วงเวลาตัดสินใจเลิก สงกรานต์

ออกมาเปิดใจเล่าปัญหาในช่วงชีวิตหนึ่งของตนเอง นั่นก็คือปัญหาชีวิตคู่ สำหรับ “แอฟ ทักษอร” ที่ตอนนั้นเลิกกับไฮโซชื่อดัง “สงกรานต์ เตชะณรงต์” ในรายการป๋าเต็ดทอล์ก แอฟ ได้เล่ากระบวนความคิดในการตัดสินใจจบชีวิตคู่กับ สงกรานต์ ที่ตอนนี้เหลือเพียงสถานะ
พ่อและแม่ของลูกที่ยังคงจะช่วยเลี้ยงลูกไปด้วยกัน แม้ต่างฝ่ายจะพบรักใหม่แล้วก็ตาม โดยบอกว่า “ชีวิตตั้งแต่เล็กจนโต เรียกได้ว่าชีวิต แอฟ ราบเรียบมาก ไม่เคยเจอปัญหาหรืออุปสรรค ไม่เคยเจอความทุกข์ ไม่เคยพบกับความทุกข์ใจเลย จนมาเจอปัญหาชีวิตคู่นี่แหละหนักที่สุดในชีวิต
ตอนนั้นได้คนรอบข้างมาช่วยขยายมุมมองให้กับตัวเองว่าได้เห็นครบแล้วหรือยังก่อนจะเลือกว่าจะเดินทางไปทางไหนต่อ การเห็นครบจะช่วยทำให้เรารู้สึกตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและพลาดน้อยที่สุด เสียหายน้อยที่สุด การเจอปัญหามันทำให้เราเกิดความเสียหายอยู่แล้ว แต่จะทำยังไง
ให้เราไปในทางที่เราบาดเจ็บน้อยที่สุด และทำให้เรารู้สึกว่าเราตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและถูกต้อง ก่อนตัดสินใจเราจึงต้องเห็นปัญหานี้ให้ครบทุกด้าน แต่ในตอนที่เราจมอยู่กับปัญหาใดปัญหาหนึ่งเราก็มักจะเห็นแต่ตัวเอง แต่คุณพ่อคุณแม่ อาจารย์ รวมถึงเพื่อนสนิทเขาก็จะคอยขยายมุมมองให้เรา
ว่ามุมมองมันเป็นแบบนี้นะ หรือเรายังขาดมุมไหนอีกหรือเปล่า เพราะเรากำลังอินอยู่กับปัญหานี้อยู่เราก็จะมองจากมุมของเราว่ามันเป็นแบบนี้ เราเห็นแบบนี้ แต่จากมุมอื่น คุณพ่อคุณแม่แอฟ ก็ยังช่วยมองในมุมของฝั่งตรงข้ามให้ว่าเขาคิดแบบนั้นนะ ในมุมมองเขา ว่าเขาเห็นเราในแบบนี้นะ
เรายังบกพร่องตรงไหนอีกหรือเปล่า เราจะยังพยายามทำมันอีกไหม หรือเรายังมีอะไรที่มันขาดอีก เราพยายามถึงที่สุดแล้วหรือยัง คุณพ่อคุณแม่จะบอกมาชัด ๆ เลยว่าคิดอย่างเดียวไม่ได้ บางทีเราก็คิดไปเอง ให้นั่งเขียนออกมาเลย การตัดสินใจทุกอย่างในช่วงชีวิต แอฟ คุณพ่อคุณแม่จะบอกให้
เขียนข้อดี ข้อเสียของมัน ข้อได้เปรียบหรือข้อเสียเปรียบต่าง ๆ ซึ่งมันทำให้เราได้เห็นตัวเองจริง ๆ บางอย่างตอนนั้นเราอิ๊นอิน แต่พอต้องมาเขียนกลับรู้สึกว่าไม่กล้าแม้แต่จะเขียน มันรู้สึกอายตัวเอง มันไร้สาระเกินไป หรือบางจุดที่เราเขียนไปแล้วเรากลับรู้สึกว่าอันนี้มันน่ากลัว ไม่แน่ใจว่าเราจะทำมันได้จริง ๆ
หรืออันนี้ไม่สมเหตุสมผลขนาดนั้นหรอกที่จะกล้าเขียนมัน มันก็เป็นเรื่องที่แปลกบางเรื่องเรากล้าคิด แต่เรากลับไม่กล้าเขียนมันออกมา รู้สึกมันก็ไม่ขนาดนั้น แค่เรื่องนิดเดียวเอง มันมีผลกับเรา ทำให้เราเห็นได้รอบด้าน ทำให้เราได้เห็นตัวเองว่าเราทำดีที่สุดแล้วหรือยัง ยังมีอะไรที่เราพอจะทำมันได้มากกว่านั้นอีกไหม
ถ้าทำได้มากกว่านั้น แอฟ ก็จะทำมันอีก จนถึงจุดที่มันมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไม่มีช่องอะไรให้ แอฟ ทำอีกแล้ว แอฟ จึงมั่นใจในการตัดสินใจ เลยเป็นที่มาว่าวันนั้นมั่นใจในการตัดสินใจ ทำให้ตัดสินใจได้ค่อนข้างนิ่ง มีช่วงนึงมองย้อนกลับไปจึงไม่เสียใจ ทุกอย่างล้วนเป็นประสบการณ์ให้เราได้เรียนรู้ มันก็เป็นรสชาติชีวิตจริง ๆ”
ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ ก็ยังจะตัดสินใจแบบเดิม
“สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็น แอฟ หรือ คุณสงกรานต์ แอฟ เชื่อว่าทั้ง แอฟ และเขาก็ได้เรียนรู้อะไรในช่วงชีวิตนั้น และก่อนที่เราจะมาเจอเหตุการณ์นั้นเราก็เคยมีความสุขกันมาก่อน ทุกวันนี้บางคนก็ถามหรือบางคนก็อยากจะซ้ำ เห็นไหมบอกแล้วว่าวันนั้นไม่น่าเลือก ไม่ค่ะ
ย้อนกลับไปวันนั้น แอฟ ก็จะเลือกแบบนี้แล้วแต่คุณเลือกเลย แต่สำหรับ แอฟ ไม่ว่าตอนจบ จุดหมายปลายทางมันจะไม่ได้จบแบบทุกคนวาดฝันไว้ แต่ แอฟ พอใจ และแฮปปี้ที่อย่างน้อยช่วงชีวิตในตอนนั้น แอฟ ได้มีความสุข บางคนบอกก็คุ้มค่าแหละ แอฟ ได้ ปีใหม่ มา
มันก็ใช่แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ต่อให้ แอฟ ไม่มี ปีใหม่ ณ วันน้้น แอฟ ก็ตัดสินใจแบบนั้น ให้ แอฟ เลือก แอฟ ก็เอา ดีกว่าเกิดมาแล้ว แอฟ ไม่เคยมีช่วงที่มีความสุขเลยเพราะกลัวว่ามันจะไม่สำเร็จไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต แอฟ ไม่ได้ต้องการขนาดนั้น สำหรับ แอฟ
แค่ไหนแค่นั้นถือว่าทำดีที่สุดแล้ว เอ็นจอยกับมันที่สุดแล้ว ณ โมเมนต์นั้น ไม่เป็นไร จบ และเริ่มใหม่ได้ ไม่ได้เป็นคนที่ถ้าความสุขที่คุณเลือก ณ วันนั้นมันจะไม่อยู่ยาวไปจนถึงวันสุดท้ายที่คุณมีชีวิตอยู่แล้วจะไม่เลือกมัน แอฟ เลือก”
ข้างนอกเป็นผู้หญิงดูบอบบาง แต่ข้างในอึด ถึก ทน
“ข้างนอก แอฟ อาจจะดูบาง ๆ แต่ข้างใน แอฟ คือ อึด ถึก ทน แอฟ อาจจะไม่ใช่คนที่กล้าพูดกล้าตัดสินใจ แต่รู้สึกว่าตัวเองมั่นคง แอฟ ไม่ได้แมน ไม่ได้แข็งแกร่งเบอร์นั้น แต่มั่นคงทางความคิด มั่นคงที่จะเป็นตัวเอง มั่นคงในการตัดสินใจ มันเกิดจากทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แอฟ
เกิดจากคุณพ่อคุณแม่ที่ให้ความมั่นใจกับเรา เราจึงรักและเคารพในตัวเองเลยรู้สึกไม่ค่อยอ่อนไหวกับอะไรที่จะเข้ามา มันเลยกระทบเรายาก”