บอย พีซเมคเกอร์ และภรรยา เจี๊ยบ พิจิตตรา เปิดเผยเรื่องราวชีวิตคู่อันน่าประทับใจในรายการ “เมาท์เขย่าเตียง” ที่ดำเนินรายการโดย นก จริยา และ จอนนี่ จนทำเอาทั้งแขกรับเชิญและพิธีกรถึงกับน้ำตาไหล โดยเฉพาะประเด็นการฝ่าฟันวิกฤตหนี้สินครั้งใหญ่ที่เกิดจากเหตุไฟไหม้ธุรกิจร้านอาหาร
ย้อนกลับไปในช่วงวิกฤต ทั้งคู่ต้องแบกรับภาระหนี้สินเกือบ 50 ล้านบาท จนแทบไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ ทำให้ต้องปรับแผนการแต่งงานที่วางไว้ในช่วงอายุ 30 ต้น ๆ ออกไป รวมถึงการมีบุตรที่เคยวางแผนไว้ว่าอยากมีตอนอายุยังน้อย เพื่อที่เมื่อลูกอายุ 15 ปี พวกเขาจะอายุ 50 ปี
และเมื่อลูกอายุ 25 ปี พวกเขาก็จะอายุ 60 ปีพอดี บอย เล่าด้วยความซาบซึ้งว่า ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้น เจี๊ยบ ได้เดินเข้ามาถอดเครื่องประดับและของมีค่าทุกอย่างให้เขานำไปขายเพื่อชำระหนี้ ทั้งคู่ต้องขายทรัพย์สินทุกอย่าง รวมถึงรถยนต์ เจี๊ยบ ยอมสละความสุขหลายอย่าง
ไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่ใช้ของแพงเลยตลอดระยะเวลาเกือบ 7 ปี ที่น่าทึ่งคือ เจี๊ยบ ซึ่งเป็นดาราที่มีชื่อเสียง ยอมเดินเข้าไปติดต่อขายงานตามเลานจ์ต่าง ๆ ด้วยตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงชื่อเสียงหรือหน้าตาในวงการ จนกระทั่งทุกวันนี้ผู้จัดการเลานจ์หลายแห่งยังจำเธอได้ดี
บอย เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า สิ่งที่เขากลัวที่สุดในช่วงนั้นคือการที่ เจี๊ยบ จะไม่ทนแล้วจากเขาไป เพราะตอนนั้นยังไม่ได้แต่งงานกัน เธอมีสิทธิ์เลือกที่จะไป แต่ เจี๊ยบ กลับเลือกที่จะอยู่เคียงข้างเขาในยามที่ชีวิตลำบากที่สุด ทั้งคู่ผลัดกันให้กำลังใจ เมื่อฝ่ายหนึ่งอ่อนแอ
อีกฝ่ายก็จะคอยปลอบว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวทุกอย่างก็จะผ่านไป หลังจากใช้เวลากว่า 6-7 ปี จึงชำระหนี้จนหมด ทั้งคู่จึงได้แต่งงานกันในพิธีคริสต์อย่างสวยงาม ปัจจุบัน แม้ บอย จะสร้างเรือนหอขนาดใหญ่ให้ แต่ เจี๊ยบ กลับชอบอยู่บ้านหลังเล็ก ๆ กับคุณแม่มากกว่า เจี๊ยบ บอกว่า
หลังผ่านวิกฤตครั้งนั้นมา เธอไม่ได้ฝันถึงการมีบ้านหลังใหญ่หรือบ้านที่ต่างประเทศอีกต่อไป แค่ได้อยู่กับครอบครัวและได้ท่องเที่ยวบ้างในยามว่างก็มีความสุขมากพอแล้ว เจี๊ยบ ยังเล่าทั้งน้ำตาว่า เธอเลือกใช้การกระทำมากกว่าคำพูด ในยามที่ต้องการเงินจำนวนมาก เธอจะหางานเพิ่มและ
เดินเข้าไปติดต่องานตามร้านต่าง ๆ ด้วยตัวเอง แม้จะผ่านเหตุการณ์นั้นมานานแล้ว แต่เมื่อเล่าถึงก็ยังอดร้องไห้ไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเสียใจ แต่เป็นความรู้สึกที่พรั่งพรูออกมาเอง