ประกันสังคม เผย วิธีลงทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ ม.33, ม.39, ม.40

ประกันสังคม เปิดขั้นตอนลงทะเบียน e-services www.sso.go.th เยียวย า นายจ้าง และ ผู้ประกันตน มาตรา 33, มาตรา 39 และ มาตรา 40 ที่ได้รับผลกระทบ

สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th เยียวย า นายจ้าง และ ผู้ประกันตน ม.33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และอนุมัติเงินช่วยเหลือแรงงานฟรีแลนซ์ ตาม มาตรา 39 และ มาตรา 40 ได้คนละ 5,000 บาท โดยต้องมีหลักฐานลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ภายในเดือน ก.ค.2564

4 กิจการ ที่ได้รับการช่วยเหลือตาม มาตรการเยียวย า นายจ้าง และ ผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 มีดังนี้

  • กิจการก่อสร้าง
  • กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
  • กิจการศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ
  • กิจการกิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ

พื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัดที่ได้รับสิทธิ์

  • กรุงเทพมหานคร
  • นครปฐม
  • สมุทรสาคร
  • ปทุมธานี
  • นนทบุรี
  • สมุทรปราการ

สำหรับ ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ผู้ประกอบการมีหน้าที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ให้ลูกจ้าง โดยลงทะเบียนผ่านออนไลน์ใน ระบบ e-services บนเว็บไซต์ สำนักงานประกันสังคม ลูกจ้าง ซึ่งเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 จะได้รับเงินทดแทนจากการขาดรายได้ ร้อยละ 50 ของค่าจ้างที่นำส่งประกันสังคม แต่ไม่เกิน 7,500 บาทต่อเดือน โดยลงทะเบียนเยียวย า ผ่านระบบ e-services www.sso.go.th

นอกจากนั้น กระทรวงการคลังยังเยียวย า เพิ่มอีก 2,000 บาท จ่ายเงินชดเชยให้กับลูกจ้างสัญชาติไทย เพิ่มอีก รายละ 2,000 บาท ส่วนผู้ประกอบการรับเงินเยียวย า จำนวน 3,000 บาทต่อลูกจ้างหนึ่งคน สูงสุดไม่เกิน 200 คนต่อแห่ง ในส่วนของผู้ประกอบการที่มีลูกจ้าง แต่ยังไม่ขึ้นทะเบียนประกันสังคม ขอให้มาขึ้นทะเบียนประกันสังคม ในระหว่างวันที่ 29 มิ.ย. – 30 ก.ค.2564 โดยสามารถขึ้นทะเบียนผ่าน เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม

ซึ่งทั้ง นายจ้าง และ ลูกจ้าง จะได้รับเงินเยียวย า โดยลูกจ้างสัญชาติไทย รับเงิน รายละ 2,000 บาท นายจ้าง รับ 3,000 บาท ลูกจ้างหนึ่งคน สูงสุดไม่เกิน 200 คนต่อแห่ง โดยกระทรวงการคลังจะโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยติดต่อสายด่วนประกันสังคม 1506 กด 1 ตลอด 24 ชั่วโมง

วิธีลงทะเบียนมีดังนี้

  • ลงทะเบียนขอทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ต www.sso.go.th
  • เข้าเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม เลือกหัวข้อ สถานประกอบการ
  • เลือกขอทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ต กรอกข้อมูลให้ครบ เพื่อลงทะเบียน สปส. 1-05
  • ระบบส่งแบบลงทะเบียน (สปส. 1-05) กลับทาง e-mail เพื่อพิมพ์แบบลงทะเบียนส่งสำนักงานประกันสังคม
  • ผู้มีอำนาจลงนาม ประทับตราและพ ย าน 2 ท่าน
  • สำนักงานประกันสังคมอนุมัติส่ง User-ID ให้ทาง e-mail เพื่อสถานประกอบการสามารถส่งข้อมูลงานทะเบียน
  • แจ้งเข้า – แจ้งออก เปลี่ยนแปลงข้อมูลและส่งเงินสมทบประจำเดือน
  • ส่งข้อมูลทะเบียนผู้ประกันตน www.sso.go.th

นายจ้างดำเนินการส่งข้อมูลทะเบียนผู้ประกันตนตามขั้นตอน ดังนี้

  • เข้าเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม เลือกหัวข้อ สถานประกอบการ
  • เลือกเมนู ทะเบียนผู้ประกันตน กรอกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน (User-ID)
  • เลือกเมนูที่จะดำเนินการ
  • ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน/แจ้งรับผู้ประกันตนเข้าทำงาน (สปส.1-03)
  • บันทึกขึ้นทะเบียนสำหรับผู้ที่เคยมีบัตรรับรองสิทธิแล้ว
  • แจ้งสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน (สปส.6-09)
  • แจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ประกันตน (สปส.6-10)
  • ส่งข้อมูลทะเบียนด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (สปส.1-04)

การส่งข้อมูลเงินสมทบ

  • เข้าเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม เลือกหัวข้อ สถานประกอบการ
  • เลือกเมนู ทะเบียนผู้ประกันตน กรอกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน (User-ID)
  • เลือกวิธีการยื่นข้อมูลการส่งเงินสมทบ
  • ส่งเงินสมทบแบบแยกยื่น (สปส.1-10)
  • ส่งเงินสมทบแบบยื่นรวมสาขา (สปส.1-10/1)
  • เลือกสถานประกอบการ (เลขที่บัญชีนายจ้าง และลำดับที่สาขา)
  • เลือกวิธีการนำส่งข้อมูล (งวดเดือน ปี พ.ศ.) และเลือกวิธีการนำส่งข้อมูลการส่งเงินสมทบ
  • กรอกข้อมูล (กรอกเลขบัตรประชาชน และค่าจ้าง)
  • แนบไฟล์ (เลือกรูปแบบไฟล์ และไฟล์เงินสมทบที่จะนำส่งเงินสมทบ)

ส่วน ผู้ประกันตน ตาม มาตรา 39 และ มาตรา 40 สัญชาติไทย ที่ยังประกอบอาชีพอยู่ จะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน เช่นเดียวกับ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ไม่ได้อยู่ใน มาตรา 33 มาตรา 39 และ มาตรา 40 ที่ยังประกอบอาชีพอยู่ ต้องเตรียมหลักฐานเพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 กับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อรับความช่วยเหลือ 5,000 บาท จำนวน 1 เดือนด้วย

9 สาขาอาชีพ ในระบบประกันสังคม และ นอกระบบประกันสังคม ที่ได้รับการช่วยเหลือ มีดังนี้

  1. สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
  2. สาขาการขายส่งและการขายปลีก
  3. สาขาการซ่อมยานยนต์
  4. สาขากิจกรรมการบริหารและสนับสนุนวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมวิชาการ
  5. สาขาข้อมูลข่าวสารและการศึกษา
  6. กิจการก่อสร้าง
  7. กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
  8. กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันนาการ
  9. และกิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ