ปั้นจั่น เปิดใจ จิตตก หลังโดนดราม่าหนัก ไม่อยากตื่นมาเจอใคร เครียด ต้องกินยาซึมเศร้า

หลายคนอาจจะเห็น ปั้นจั่น ปรมะ เป็นคนร่าเริง อารมณ์ดี สนุกสนาน แต่ครั้งหนึ่งเจ้าตัวต้องเผชิญกับโรคซึมเศร้า หลังจากเกิดกระแสดราม่าอย่างหนักถึงปมแสดงคิดเห็นทางการเมือง ถึงขั้นขอแบนผลงานทุกชิ้นและเลิกติดตาม
ล่าสุด ปั้นจั่น เปิดใจว่า อาการซึมเศร้ามันค่อย ๆ สะสมมา ซึ่งตนเองไม่เคยเจอกระแสดราม่าหนักขนาดนี้ ยอมรับช่วงนั้นจิตตก จนถึงขั้นไม่อยากทำงาน, ไม่อยากเจอใคร และ ไม่อยากพูดกับใคร แค่อยากอยู่แต่ในห้องนอน ปิดไฟ และปิดผ้าม่าน จนคุณแม่เป็นห่วงมาก ท่านสั่งไม่ให้ล็อกห้องและเก็บกุญแจห้องไว้
ซึ่งทุกครั้งที่ออกมาจากบ้านไปทำงาน จะเป็นอีกคนหนึ่งที่ร่าเริง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พออยู่คนเดียวก็จะเงียบ ๆ และนิ่ง ๆ
ส่วนเรื่องดราม่านั้น ความจริงมันเป็นความเข้าใจผิดเรื่องการสื่อสาร แล้วทำให้เรื่องบานปลายไปใหญ่โต ซึ่งส่วนตัวเป็นคนแคร์ความรู้สึกของคนอื่น ที่ไม่เคยไปมองว่า ใครสูงหรือใครต่ำ แต่มาโดนคอมเม้นต์ต่อว่า ไม่แคร์คนอื่น จึงทำให้รู้สึกนอยด์และเสียใจ
อีกทั้งตอนนั้นเป็นเคสแรก ๆ ของวงการบันเทิงที่เกิดกระแสดราม่า ยอมรับว่า ตนเองอยากแก้ตัว ถึงขั้นไปปรึกษากับผู้จัดการ ด้านผู้จัดการ แนะนำว่า อย่าไปพูดแก้ตัวเลย ยิ่งพูดต่อจะทำให้ต่อความยาวสาวความยืด แต่ถ้ามองในมุมกลับกัน ก็ไม่มีโอกาสแก้ต่างให้ตนเองเลย
โดยตอนนั้นเลือกจะนิ่งเฉย แล้วปล่อยให้กาลเวลาตอบไปเองว่าเป็นยังไง แต่สิ่งนี้กลับกลายมาทำร้ายจิตใจของตนเองตลอดเวลา
กระทั่งมีครั้งหนึ่ง ต้องจ่ายค่าทางด่วน แต่ไม่กล้ามองหน้าคนเก็บเงิน เพราะ รู้สึกนอยด์กับคนรอบข้าง ว่า จะมองตนเองไม่ดีไปหมดหรือเปล่า รวมถึงไม่อยากออกไปไหน ถ้าไม่มีงานก็จะเก็บตัวอยู่กับบ้าน และอยากนอนตลอดเวลา จนในที่สุดต้องปรึกษาแพทย์
ปั้นจั่น ยอมรับว่า ทุกวันนี้ ต้องกินยาโรคซึมเศร้าอยู่ ซึ่งเป็นตัวยาที่จะทำให้ไม่ร่าเริงสุด หรือ เศร้าสุด แต่จะมีเอฟเฟกต์ คือ อาจทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เพราะ ยาจะไปกดความอารมณ์และรู้สึก